[เสียงดนตรี]
(บรรยายหญิง) คนไต้หวันเขาต่อคิวทำอะไร ร้านนี้ก็เข้าคิว ร้านนี้ก็ด้วย ร้านนั้นก็อีก (ภาษาจีน) (ฟูจิ) อ๋อ หรือ (อลิซาเบธ) เขาไม่รู้จักค่ะ
แต่เห็นเข้าคิว (ฟูจิ) เห็นเข้าคิว นี่ไง เคยกินไหม (ภาษาจีน) (อลิซาเบธิ) ไม่เคยกิน (ฟูจิ) เอาแล้ว เห็นไหม (บรรยาย) อ้าว ไม่รู้ว่าอะไร
ก็ยังอยากจะต่อคิวนะคะ
ถ้าอย่างนั้นเราไปเข้าคิวกับเขา เพื่อหาคำตอบกันดีกว่าค่ะ
(ฟูจิ) ไม่ธรรมดา อร่อยเนอะ ผมไม่ได้พูดเล่นนะ อร่อยมาก (ฟูจิ) อร่อยเนอะ
[เสียงดนตรี]
[เสียงดนตรี]
(บรรยาย) มาไต้หวันกันอีกแล้วค่ะ
คราวนี้เราจะพาคุณผู้ชม
ไปดูวัฒนธรรมการกินของคนไต้หวันกันค่ะ
ถ้าเราเคยพาคุณผู้ชม
ไปดูร้านอาหารมากมายในญี่ปุ่น ที่มีคนยอมต่อคิวรอกินเป็นชั่วโมง สำหรับคนไต้หวันแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกันนะคะ เรามาเริ่มต้นตั้งแต่อาหารเช้ากันเลยค่ะ
คุณอลิซาเบธล่ามผู้น่ารักของเรา พามาร้านที่ต้องต่อคิวยาวตั้งแต่ชั้นหนึ่ง ขึ้นบันไดกันไปเลยค่ะ
(ฟูจิ) ตอนนี้คุณอลิซาเบธจะพาผมไปไหนครับ
(อลิซาเบธ) ร้านแรกที่เราจะไปกันนะคะ ชื่อว่าร้านฟู่หางโต้วเจียง เป็นร้านอาหารเช้าชื่อดังในเมืองไทเปค่ะ
คุณฟูจิต้องลองไปชิมดู
แต่พอไปถึงหน้าร้าน คุณฟูจิก็จะเห็นว่า คนจะต่อคิวเยอะอะไรขนาดนั้น
[เสียงดนตรี]
[เสียงรถไฟฟ้า] [เสียงรถ] (ฟูจิ) ทำไมต้องเข้าคิวอย่างนี้
เขาทำอะไรกันครับ
(อลิซาเบธ) เขามารอซื้อร้านน้ำเต้าหู้
ที่บอกเมื่อสักครู่นี้ค่ะ
ชื่อร้านฟู่หางโต้วเจียง ร้านตั้งอยู่ชั้นสอง นี่คือต่อแถวตั้งแต่ข้างล่างขึ้นไป ขึ้นบันไดไปจนถึงเคาน์เตอร์หน้าร้าน ซึ่งวันนี้ถือว่าน้อยนะคุณฟูจิ ปกติเห็นเส้นนี้ไหมคะ ปกติยาวไปถึงตรงโน้น
ถ้าเป็นวันสุดสัปดาห์ หรือเป็นวันหยุดอะไรแบบนี้ค่ะ
(ฟูจิ) ก่อนต่อต้องถามว่า
คุณรู้จักได้อย่างไร แล้วชอบอย่างไร (ภาษาจีน) อ๋อ เพื่อนแนะนำมาค่ะ
เขามาหลายครั้งแล้วค่ะ
เพราะว่าแบบว่าเป็นวันหยุดก็ต้องมา มาบ่อยมาก
[เสียงดนตรี]
(บรรยาย) ลูกค้าประจำมาบ่อย แม้จะต้องยืนต่อคิวยาวนาน
เป็นครึ่งค่อนชั่วโมงค่ะ
เพราะรู้ว่าวัตถุดิบของที่นี่ดี แล้วก็ทำสดใหม่ตลอดเวลานั่นเองค่ะ
เดี๋ยวเราจะได้ลองกันบ้างค่ะ
ว่าอร่อยสมคำเล่าลือหรือไม่ ตอนนี้รอคิวไปก่อนนะคะ ทีมงานทุกคนก็ต้องต่อคิวเหมือนกัน แม้เราจะขอถ่ายทำมาแล้ว
แต่เจ้าของร้านบอกว่า
ไม่มีสิทธิพิเศษ
แต่อย่างใด แล้วก็ไม่มีเวลาคุยด้วย เลยต้องใช้ประสบการณ์ของคุณอลิซาเบธ ที่อยู่ไต้หวันมาหลายปี และได้มาคุยกับเจ้าของร้านไว้ก่อนแล้วค่ะ
(ภาษาจีน) (โปรดิวเซอร์) พายสับปะรด ออริจินอล ลองชิมดู แป้งข้างนอกกรอบ แล้วพายสับปะรดไม่หวานมาก ก็คือในระหว่างต่อแถว เขาจะเอาน้ำชามาเสิร์ฟ เอาขนมมาให้กิน แบบว่าน่าจะเอาสินค้าต่าง ๆ มาให้คนเข้าแถวได้กินก่อน เผื่อจะชอบ แล้วก็ไปซื้อ
[เสียงดนตรี]
(บรรยาย) เป็นไอเดียที่ดีนะคะ ระหว่างรอคิวเพื่อไม่ให้ลูกค้าเครียด ก็เสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟขนม รองท้องกันไปก่อน และในที่สุดเวลาของเราก็มาถึงแล้ว ร้านใหญ่ไม่เบาเลยนะคะ คนยังต้องต่อคิวขนาดนี้ แสดงว่าขายดีมากจริง ๆ ค่ะ
[เสียงดนตรี]
(ฟูจิ) ของญี่ปุ่นวิธีการจอง ก็คือว่าคนเข้าคิวก่อนแล้วเราก็มาจองโต๊ะ
แต่ที่นี่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร คุณอลิซาเบธ ถามหน่อยครับ
ว่า ที่นี่วิธีการจองเป็นอย่างไร อย่างของญี่ปุ่น
มีคนเข้าคิว มีตัวแทนเข้าคิวแล้ว ถึงเวลาเข้าไปต่อได้อีกสักสองสามคน เขาก็ไม่ว่าอะไร
แต่ที่นี่ว่าไหม อันนี้ก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ
คือเราสามารถไปสั่งให้คนเป็นตัวแทน
จองไว้ก่อนแล้วเราค่อยไปสั่ง แล้วเราก็มาจองที่ได้เหมือนกัน (อลิซาเบธ) ใช่ ๆ ค่ะ
เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเนอะ
แต่ว่าบางทีส่วนมากเขาไม่กินที่นี่ค่ะ
เขาจะซื้อกลับกัน (ฟูจิ) อ๋อ หรือ (บรรยาย) พอถึงเวลาจะสั่งอาหารขึ้นมาจริง ๆ คุณพี่คนไต้หวันท่านนี้ใจดีมาก แนะนำให้เราด้วยค่ะ
ท่านแนะนำอันไหนครับ
อันไหนที่แนะนำ (ภาษาจีน) (อลิซาเบธ) และอีกจุดหนึ่ง
ร้านข้างนอกมี
แต่แป้งแบบหนา (ฟูจิ) อ๋อ (อลิซาเบธ)
แต่ร้านนี้มีแป้งแบบบางให้กินค่ะ
ด้วยความที่ว่าจริง ๆ ปาท่องโก๋ของที่นี่
ก็อร่อยเหมือนกัน จริง ๆ เขาอยากจะแนะนำ
ให้สั่งเป็นแบบนี้ไปเลย คือกินทั้งแบบมีทั้งไข่ มีทั้งปาท่องโก๋ แล้วก็มีทั้งแป้งแบบหนาด้วยค่ะ
[เสียงดนตรี]
(บรรยาย) ได้มาแล้วค่ะ
อาหารเช้าแบบคนไต้หวัน หน้าตาดี น่ากินมาก ๆ แล้วรสชาติล่ะ จะเป็นอย่างไร
[เสียงดนตรี]
(อลิซาเบธ) ของที่นี่ทำสดใหม่ทุกวัน
เพราะฉะนั้นกลิ่นก็จะมีความยั่วยวน อยากให้เราน้ำลายสอและอยากจะกินค่ะ
– ยั่วยวนเลย
– ใช่
[หัวเราะ]
(อลิซาเบธ) ตัวนี้จะเป็นข้าวนะ (ฟูจิ) คนมากินเต็มร้านตลอดอย่างนี้ ต้องมาเข้าคิวแบบนี้
มันต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ เลย เอาเลยนะ ชิมก่อนเลยนะ
[เสียงดนตรี]
โอ้โฮ นุ่ม อร่อยเลย
[เสียงดนตรี]
(ฟูจิ) มันไม่ใช่เต้าหู้เค็มธรรมดา มันจะมีความกลมกล่อมออกมา
[เสียงดนตรี]
จินตนาการเลยว่า
พอกินแล้วเลิกไม่ได้ ต้องกินอย่างอื่นต่ออีก น้ำข้าว
[เสียงดนตรี]
ว้าว อร่อยเลย
[เสียงดนตรี]
แบ่งให้คุณอลิซาเบธหน่อยหนึ่งก็แล้วกัน
[เสียงดนตรี]
อร่อยมากเลยค่ะ
นี่ค่ะ
คุณฟูจิ นี่คือชื่อร้านนะคะ
ฟู่หางโต้วเจียง โต้วเจียงแปลว่าน้ำเต้าหู้ เจ้าของร้านมาจาก
มณฑลหางโจว ที่ประเทศจีน เขาก็เลยเอาคำว่า หาง
มาตั้งเป็นชื่อร้านเขาค่ะ
ซึ่งเปิดร้านมาตั้งแต่ ปี 1958 นี่ก็จะเป็นตัวแป้งโรตีแบบหนา ที่หากินข้างนอกไม่ได้ค่ะ
มีสอดไส้ไข่ด้วย คุณฟูจิต้องลองชิมดูค่ะ
นุ่มและกรอบ (ฟูจิ) อันนี้คือ ปาท่องโก๋ – เดี๋ยวจะชำแหละให้ดูนะคะ
– ชำแหละเลย วิธีการทำมันง่ายมากเลย ก็คือไปดึงแค่แป้ง แล้วก็เอาปาท่องโก๋วางเลย (ฟูจิ) มันขายได้ด้วยหรือ
– ค่ะ
(อลิซาเบธ) ขายได้ แค่นี้คนก็กินแล้วค่ะ
(ฟูจิ) มันต่างกับปาท่องโก๋ที่อื่นอย่างไร มันจะมีความกรอบ [เสียงหักปาท่องโก๋] ได้ยินเสียงไหมคะ
[เสียงดนตรี]
(บรรยาย) สนุกสนานกันใหญ่ อยากจะให้คุณผู้ชม
ได้ลิ้มรสด้วยเลยนะคะนี่
แต่ยังไม่หมดค่ะ
มาดูอาหารเช้าของคนไต้หวันอย่างต่อไป นี่ก็คือข้าวปั้นใช่ไหม ฟั่นถวน ค่ะ
– ฟั่น…
– ฟั่นถวน ฟั่น แปลว่า ข้าว ถวน แปลว่า เป็นกลุ่มหรือเป็นก้อน (อลิซาเบธ) ข้างในก็จะมีไข่
(ฟูจิ) ก็คือผสมกันหมดเลย แล้วก็มีผักกาดดอง มีเครื่องต่าง ๆ ค่ะ
อ๋อ มันจะต้องกลมกล่อมแน่ ๆ เลย กรอบมาก อร่อยเลย เอาอย่างนี้ดีกว่า คนเราจะถูกหลอกจากสายตา ว่ามันอร่อยหรือไม่อร่อย พูดง่าย ๆ ว่าหลับตากินยังอร่อยเลย ไม่ต้องใช้ประสาทสัมผัสทางตาอย่างนั้นเลย (อลิซาเบธ) ข้อมูลของร้านนี้
จริง ๆ มันหายากมากเลยนะคะ เพราะว่าเจ้าของร้าน ไม่เคยให้สัมภาษณ์จากสื่อที่ไหนเลย ไม่เคยออกโทรทัศน์ที่ไหนเลย จริง ๆ มันเริ่มมาจากรสชาติที่ถูกปากก่อน และน่าจะเป็นการตลาดทางอินเทอร์เน็ต คนที่มากินมีการเช็กอิน
มีการเอาไปรีวิว จริง ๆ แล้วในอินเทอร์เน็ต เรื่องของการทำโฆษณาของเขา ถือว่ามีน้อยมากเลยนะคะ เขาแทบจะไม่ค่อยทำโฆษณาอะไรเลย (บรรยาย) ขนาดว่าร้านนี้ เจ้าของร้านไม่ออกสื่อ ไม่ให้สัมภาษณ์ก็ยังขายดีขนาดนี้ เขาดีด้วยคุณภาพ
แล้วก็ความอร่อยจริง ๆ นะคะ
[เสียงดนตรี]
อิ่มอาหารเช้าแล้ว ยังมีมื้อเย็นที่น่าสนใจของคนไต้หวันอีก คุณอลิซาเบธบอกว่า
ถ้าอยากจะเห็นการเข้าคิวกินอาหาร
ของคนไต้หวันจริง ๆ แบบบ้าน ๆ ต้องไปตลาดกลางคืนค่ะ
รออะไรละคะ ไปกันเลยสิคะ
[เสียงดนตรี]
(ฟูจิ) มาไต้หวันต้องมาตลาดซื่อหลิน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวันเลย ตลาดนี้มันใหญ่มากเลย เดินหลงทางเลย ใช่ค่ะ
ถ้าเกิดเดินไม่ชิน นี่คือเหมือนอยู่ในเขาวงกต แล้วร้านแรกที่จะพาไปนะคะ เป็นร้านที่… งงเหมือนกัน – ยังไม่เคยกินเหมือนกันค่ะ
– งง มาทีไร ผ่านตลอด – แล้วคนก็ต่อคิวแน่นตลอด
– ใช่ ๆ ซึ่งคนไต้หวันแปลกมากค่ะ
คุณฟูจิ คือแบบว่าเขามีความพยายามในการรอ
ที่จะกินของอร่อย ๆ มาก ไปเลยค่ะ
[เสียงดนตรี]
ที่นี่มีการเข้าคิวไหมครับ
– มีการเข้าแถวไหม
– เยอะมากเลยค่ะ
คุณฟูจิ – คือคนไต้หวันมีนิสัยที่พิเศษชอบเข้าคิว
– หรือ บางทีก็ไม่รู้ว่าเข้าคิวอะไร ก็จะไปยืนต่อคิวอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะได้รู้ว่าคืออะไร ผิดกับตัวเราที่เป็นคนไทยมาก เวลาคนเยอะปุ๊บ เราจะขี้เกียจรอ
แต่คนไต้หวัน
มีความพยายามในการรอมาก คนญี่ปุ่นชอบเข้าคิวไหมคะ ชอบมากเลยครับ
เหมือนกันเลย เหมือนกันเลยใช่ไหมคะ
ถ้าเห็นตรงไหนมี ก็เข้าคิวเหมือนกัน ความอดทนในการรอของคนญี่ปุ่น
นี่เขารอได้นานแค่ไหนคะ – ชั่วโมงครึ่งมั้ง
– โอ้โฮ บางทีหนาวติดลบ (ฟูจิ) วันนั้นเราไปถ่ายทำตอนติดลบ ติดลบห้าองศาเซลเซียส
ติดลบสององศาเซลเซียส เข้าคิวตั้งแต่เช้า ร้านยังไม่เปิดเลย รอสองชั่วโมง นั่งอ่านหนังสือได้อย่างไร งงเลย อาจจะคล้าย ๆ แบบว่า ฉันซื้อของเข้าคิวสองชั่วโมง – เพื่อซื้อนี่มาฝากเธอนะ
– อ๋อ มันรู้สึกมีค่ากว่าไหม เป็นไปได้ไหม มีคุณค่ามากกว่า (ฟูจิ) ผมรู้แล้วคนที่เข้าคิวส่วนใหญ่ ไม่ค่อยเข้าคิวให้ตัวเองหรอก เข้าคิวเพื่อคนอื่นมากกว่า รู้จักที่นี่ได้อย่างไรครับ
(ภาษาจีน) เขาไม่รู้จักค่ะ
ก็เห็นเข้าคิว นี่ไง ก็คือไม่รู้จักเห็นเข้าคิว ก็เลยเข้าคิวบ้าง เคยกินไหม (ภาษาจีน) ไม่เคยกิน เอาแล้ว เห็นไหม เพราะว่าชื่อดัง
แต่ไม่เคยกิน เห็นเข้าคิวก็เลยมาเข้าคิวอีก – ใช่ค่ะ
– โอ้โฮ (บรรยาย) จริงอย่างที่คุณอลิซาเบธ
เล่าให้เราฟังค่ะ
แม้จะไม่รู้ว่าแถวที่กำลังต่ออยู่เขาขายอะไร ก็ยังจะต่อคิวค่ะ
เพราะคิดว่าอร่อยแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นคนจะรอต่อคิวกันหรือ ฟังแล้วก็อยากจะไปลองต่อสักคิวดูนะคะ (ภาษาจีน) (บรรยาย) ได้มาแล้วค่ะ
ชิมสิคะชิม
อยากรู้ว่าอร่อยจริงหรือไม่ โอ้โฮ อร่อย โอ้โฮ รสชาติหอมหวานมาก ไม่ธรรมดา อร่อย ผมไม่ได้พูดเล่นนะ – อร่อยมาก
– อร่อยเนอะ – อร่อยมาก
– อร่อยเนอะ (ฟูจิ) สมกับการเข้าคิวจริง ๆ
มันหอมหวานมากเนอะ (อลิซาเบธ) ไก่คือแบบฉ่ำมากค่ะ
คุณฟูจิ ต้องเป่าเยอะ ๆ หน่อย มันอร่อยมาก (อลิซาเบธ) น้ำซอสเขาที่ราดค่ะ
อร่อยมากเลยนะคะ (ฟูจิ) อ๋อ เข้าใจเลย
ที่คุณอลิซาเบธบอกว่า มีการขอทำแฟรนไชส์จริง ๆ นี่เข้าใจจริง ๆ แล้ว ตอนแรกบอกว่า
คงไม่ต้องถึงขนาดทำแฟรนไชส์ มันอร่อยจริง ๆ
[เสียงดนตรี]
(บรรยาย) โอ้โฮ อร่อยซะจน
อยากจะกินด้วยเลยนะคะ แค่ไก่ทอดเท่านั้น ขายดีจนมีลูกค้าเข้าคิวขนาดนี้เลยหรือคะนี่ ยังไม่หมดค่ะ
ตลาดใหญ่ขนาดนี้ ต้องมีของเด็ดที่ต้องเข้าคิวอีก (อลิซาเบธ) ร้านมันบดราดชีสค่ะ
ถือว่าเป็นร้านที่เรียกว่า
คนไต้หวันชอบกินมาก เพราะว่ามีความให้เยอะแล้วก็คุ้ม คนก็เลยต้องมาต่อคิวกินกันค่ะ
[เสียงดนตรี]
นี่ครั้งที่เท่าไรแล้ว (ภาษาจีน) จริง ๆ กินมาหลายครั้งแล้วค่ะ
มันอร่อยขนาดนั้นเชียวหรือ (อลิซาเบธ) ใช่ค่ะ
– อย่างนั้นเราต้องกินแล้วสิ
– ค่ะ
[เสียงดนตรี]
(ฟูจิ) ลองกินดู คือ
ถ้าเป็นสาวกชีส คือยอมตายเพื่อสิ่งนี้เลยค่ะ
คุณฟูจิ อร่อยนะ
[เสียงดนตรี]
รสชาติใหม่เนอะ เป็นอะไรผสมกันหลายอย่าง เป็นทั้งชีส เป็นทั้งมัน (ฟูจิ) ผมว่าอันนี้ความอร่อยเทียบกับไก่ ผมว่าอันนี้ชนะ – เพราะอะไร
– เพราะว่าอะไรคะ เพราะว่า อร่อยเท่ากันนะ –
แต่มันมีประโยชน์ต่อร่างกาย
– อ๋อ เป็นทั้งชีส เป็นทั้งมันด้วย เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย (อลิซาเบธ) แล้วก็มีข้าวโพด มีพวกผัก (ฟูจิ) ใช่
[เสียงดนตรี]
(บรรยาย) อร่อยตลอด อร่อยไม่หยุดยั้ง และยังอยากจะอร่อยต่อไป
แต่ว่าต้องเหลือท้องไว้ก่อนนะคะ เพราะร้านต่อไป เป็นร้านที่มีวิธีการขายแปลก จากจุดเริ่มต้นที่ไม่มีหน้าร้าน
แต่สามารถมีลูกค้าเข้าคิวซื้อได้เหมือนกัน เขาทำอย่างไร และแม้ว่าวันนี้ทางเจ้าของร้าน จะพัฒนามาจนมีหน้าร้านแล้ว ก็ยังคงขายดี ตามไปดูสิค่ะ
ว่าฟูจิเซ็นเซ จะพาไปชิมของเด็ดอะไรของคนไต้หวันอีก (ฟูจิ) โอ้โฮ น่ากินจังเลย (ภาษาจีน) (ฟูจิ) ขนมที่น่าแนะนำที่สุดคืออะไรครับ
(ภาษาจีน) (บรรยาย) ร้านนี้ขายเบเกอรีค่ะ
มีตั้งแต่คุกกี้ บราวนี่ไปจนถึงเค้ก โดยทำสดใหม่ทุกวันค่ะ
ทีเด็ดอย่างแรกจะเป็นคุกกี้ไข่ขาว ที่หากินได้ยากในไต้หวัน
แต่ความแปลกของร้านนี้ที่เป็นเอกลักษณ์คือ ร้านจะเปิดตอนเย็นค่ะ
โดยขนมทั้งหมดจะเสร็จตอนสี่โมงเย็น
ดังนั้น ขนมบางอย่าง อาจจะหมดตั้งแต่หกโมงเย็นแล้วก็ได้
ดังนั้น เจ้าของร้านจึงเปิดให้โทรมาจองได้ค่ะ
ซึ่งขนมบางอย่างที่ขายดีมาก ๆ ก็ต้องสั่งจองล่วงหน้า
4 – 7 วัน กันเลยทีเดียวค่ะ
จึงไม่น่าแปลกใจว่า เฟซบุ๊กของทางร้านจะมีคนติดตามมากมาย เกือบล้านคนแล้วล่ะค่ะ
(ฟูจิ) ถึงเวลาเปิดร้านพอดีครับ
เราสัมภาษณ์ไปสักพักหนึ่งแล้ว ตอนนี้หกโมงเย็นแล้ว ลูกค้ามาเต็มเลย (บรรยาย) ฟังคร่าว ๆ แค่นี้ก็คิดว่า เจ้าของร้านต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ นะคะ เดี๋ยวอีกสักพักเราจะได้คุยกับเขากันค่ะ
ตอนนี้เราคุยกับลูกค้าไปก่อนค่ะ
แต่ละคนมาซื้อกันประจำ และเลือกกินขนมที่ออกตามฤดูกาล อย่างช่วงนี้มีสตรอว์เบอร์รีค่ะ
และแม้จะราคาสูงนิดหน่อย
แต่รู้ว่าเขาใช้วัตถุดิบดีจริง ๆ จึงยอมซื้อ
แต่โดยดี ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นลูกค้าร้านนี้ มาตั้งแต่ยังไม่มีหน้าร้านเลยนะคะ แล้วดูหน้าร้านเบเกอรีร้านนี้ เราจะรู้ว่าแนวคิดของเจ้าของร้านนี้
ไม่เหมือนใครค่ะ
(ฟูจิ) สังเกตหน้าร้านนะครับ
จะทาสีดำ
แล้วก็ใช้ม่านคล้าย ๆ กับของญี่ปุ่น ดูรู้เลยว่ามันแตกต่างนะครับ
การตก
แต่งร้านอื่นมันจะต่างกัน ทำให้มีความรู้สึกที่ต่างกัน แล้วลองดูนะครับ
ว่า ป้ายที่ทำโชว์ แล้วก็มีไฟสปอตไลท์
ยิงเข้ามาให้เห็นนะครับ
ซึ่งร้านอื่นดูสิ ไม่เหมือนเลย คือ ร้านอื่นเขาจะเป็นป้าย
แล้วมีสีออกมา
แต่นี่คือเป็นโทนดำ แล้วก็ยิงสปอตไลท์เข้ามา รู้ถึงความแตกต่าง เราดูเหมือนว่าธรรมดา
แต่ความสำเร็จมันต่างกันนิดเดียว แตกยอดขายต่างกันเลย ดูสิครับ
สีดำบวกม่านแบบคล้าย ๆ ญี่ปุ่นนะครับ
แล้วก็ยิงสปอตไลท์ลงมา มันต่างกัน
[เสียงดนตรี]
(บรรยาย) ตอนนี้ท่านเจ้าของร้าน
มีเวลาคุยกับเราแล้วค่ะ
ท่านบอกว่าอาชีพหลักจริง ๆ คือเป็นอาจารย์สอนพิเศษ ซึ่งสอนมาก่อนหน้าที่จะเปิดร้านเบเกอรีอีกค่ะ
และการเข้ามาวงการเบเกอรีนี้ได้ ก็เพราะนักเรียนนั่นแหละค่ะ
ที่มาขอทุนอาจารย์ไปเปิดร้านเบเกอรี
แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เหลืออยู่จะทำอย่างไรล่ะ ท่านเลยลงมือเรียนรู้ ทำเบเกอรีเองซะเลย แล้วก็เอามาให้นักเรียนชิม นักเรียนติดใจ
โพสต์รูปลงโซเชียลมีเดีย ก็เลยมีคนสนใจมาซื้อ ซื้อไปซื้อมา เปิดรับออร์เดอร์จริงจัง โดยไม่มีแม้กระทั่งหน้าร้านในตอนนั้นค่ะ
(ฟูจิ) ทำการตลาดอย่างไรครับ
(ภาษาจีน) (บรรยาย) คำตอบก็เป็นไป
แบบง่าย ๆ อีกนะคะ ช่วงปี 2012 ที่ท่านเริ่มทำเบเกอรี นักเรียนก็ทำเพจในเฟซบุ๊กให้
แต่เรื่องราวที่เล่านี่สิคะไม่ธรรมดา เช่น มีนักเรียนมาสั่งซื้อเค้กให้แฟน
แต่อยากให้อาจารย์ทำเค้กที่ไม่เหมือนใคร โดยสร้างเงื่อนไขขึ้นมาว่า
ถ้าเขาสอบได้คะแนน 100 เต็ม อาจารย์ถึงจะทำเค้กให้ และเขาก็ทำได้ค่ะ
เค้กที่ออกมาจึงพิเศษมาก ๆ พอโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก
ก็กลายเป็นเรื่องสนุกขึ้นมาเลยล่ะค่ะ
(ฟูจิ) ขนม ผมว่า…
มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฮิตก็จริง
แต่ผมว่าอาจารย์น่าจะฮิต หรือเป็นคนที่มีลูกศิษย์หรือคนมารักท่าน ตั้งแต่ตอนที่เป็นอาจารย์อยู่แล้วนะผมว่า (ภาษาจีน) (บรรยาย) ก็ไม่ง่ายนะคะ เป็นอาจารย์ด้วย ทำเบเกอรีด้วย ต้องแบ่งเวลาเก่ง
และก็ตั้งใจมากจริง ๆ ค่ะ
และเพราะความยุ่งมากนี่เอง ที่ทำให้ท่านต้องวางแผนการขายอย่างดี โดยขายผ่านทางเฟซบุ๊กนี่แหละค่ะ
โดยแจ้งไว้เลยนะคะว่า วันไหนจะทำขนมอะไร ใครสั่งไว้ก็มารับตามวันได้เลยค่ะ
(ฟูจิ) เป็นครูสอนพิเศษ
แล้วมีความรู้เรื่องเบเกอรีได้อย่างไรครับ
(ภาษาจีน) (บรรยาย) ปรากฏว่าคำตอบ
ทำให้เราสนุกขึ้นไปอีกนะคะ คือท่านเป็นอาจารย์สอนวิชาเลขกับชีววิทยา ซึ่งท่านก็เปรียบเทียบว่า การทำขนมนั้น
เหมือนการทดลองวิทยาศาสตร์ คือต้องลองผิดลองถูก
จากสูตรในหนังสือมากมาย แล้วเอามาวิเคราะห์วิจัยเอง ว่าแบบไหนจะอร่อยที่สุด ซึ่งท่านบอกว่า ใช้เวลามากมายกว่าจะอร่อยแบบนี้ค่ะ
และต้องคิดด้วยว่า ลูกค้าเป็นใคร น่าจะชอบรสชาติแบบไหนด้วยค่ะ
เริ่มแรกก็มีคนเข้าคิว และมีคนมากินเยอะ
แล้วอยู่ ๆ มันเพิ่ม ๆ มากขึ้น มันเพิ่มได้อย่างไร แล้วก็มีมากขนาดไหนครับ
(ภาษาจีน) (บรรยาย) คำตอบของท่าน เชื่อมโยงกับเรื่องวัฒนธรรมการชอบต่อคิว
ของคนไต้หวันอีกแล้วค่ะ
เพราะแรก ๆ ก็มีลูกค้าแค่ไม่กี่คน ที่เป็นผู้ปกครองของลูกศิษย์ และมีการนัดรับของที่สถานีรถไฟใกล้บ้านค่ะ
แล้วพอคนเดินผ่านไปผ่านมาเห็นเข้า ก็ว่ามีการต่อคิวรับของกันขึ้น ทีนี้แหละค่ะ
ลูกค้าใหม่ก็เข้ามาทันที คือมาต่อแถวด้วย จนรู้ว่าขายขนม ก็เลยสั่งซื้อด้วยเลยค่ะ
ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ
ไต้หวันสไตล์จริง ๆ ค่ะ
เอ๊ะ หรือคนไทยเราก็เป็นกันคะ พอไม่มีร้าน ก็เลยจะมาเปิดร้าน แล้วไป ๆ มา ๆ อย่างไร
ถึงมาเปิดร้านที่นี่ครับ
(ภาษาจีน) (บรรยาย) ก็เพราะการที่ลูกค้าต้องรอคิวรับขนม
ที่ไม่ค่อยสะดวกนี่แหละค่ะ
ท่านก็เลยคิดว่าเปิดเป็นหน้าร้านดีกว่า
แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์การรับขนม
ตอนเย็นถึงดึกเท่านั้น เหมือนตอนที่ท่านสอนหนังสือเสร็จแล้ว ค่อยมาทำขนม เพราะท่านคิดว่า
จะต้องขายขนมที่สดใหม่เท่านั้น จึงใช้เวลาตอนเช้าในการทำขนม และขายตอนเย็น
ดังนั้น ลูกค้าจะได้กินของใหม่วันต่อวันจริง ๆ ไม่ใช่ทำมาตั้งแต่เมื่อวาน แล้วมาขายในตอนเช้าค่ะ
เมนูที่ขายดีสามอันดับแรก
มีอะไรบ้างครับ
(ภาษาจีน) (บรรยาย) คำตอบ คือ
ขนมที่ทำมาตั้งแต่ยังไม่เปิดเป็นร้านเลยค่ะ
นั่นก็คือ ทาร์ตช็อกโกแลต ทาร์ตสตรอว์เบอร์รีลิ้นจี่ ที่จะขายเฉพาะในฤดูหนาว และอันดับ 3 คือ ทาร์ตมะม่วง ที่จะขายดีในฤดูร้อนค่ะ
ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้
ส่วนใหญ่มาจากในไต้หวันเองค่ะ
โดยเลือกเฉพาะของดีเท่านั้น สนใจเรื่องต้นทุนเป็นเรื่องรองค่ะ
(ภาษาจีน) ผมประทับใจในคำที่ท่านพูดบอกว่า ซื้อมาแล้วก็ให้ลูกน้องชิมดู หลับตาชิมอันไหนอร่อยที่สุด แล้วไม่ต้องดูราคา เจ๋งมาก
[เสียงดนตรี]
(บรรยาย) และต่อไปเราจะได้ชิม ของอร่อยอันดับต้น ๆ ของร้านแล้วล่ะค่ะ
หน้าตาจะเป็นอย่างไรกันหนอ
[เสียงดนตรี]
(ฟูจิ) คุณผู้ชมครับ
นี่ครับ
ดูแล้วสวยงาม อย่าลืมนะครับ
ท่านเป็นอาจารย์สอนนะครับ
ไม่ใช่เป็นมืออาชีพการทำเค้ก
แต่ทำเค้กแล้วทำให้ขายได้ มีคนเข้าคิว
แล้วปัจจุบันนี้มียอดขายที่ดีมาก ๆ อันนี้ก็เป็นเค้ก
แต่งงาน เดิมจากการที่จะทำให้กับเพื่อน ที่จะขอแฟน
แต่งงาน แล้วก็ออกมาเป็นแบบนี้ขึ้นมา เรื่องราวก็มี สีและหน้าตาก็น่ากิน เอาเลยนะ โอ้โฮ นุ่ม นุ่มมาก นุ่มมาก อร่อยอย่างนี้เลยหรือ
โอ้โฮ อร่อยมาก (บรรยาย) เชื่อค่ะ
ว่า จะต้องอร่อยจริง ลิ้นจี่จากฝรั่งเศส มาบวกกับสตรอว์เบอร์รี ท่านต้องคิดมาแล้วว่าลงตัวมาก ๆ เปรี้ยวอมหวานค่ะ
อย่างต่อไปทาร์ตช็อกโกแลตค่ะ
[เสียงดนตรี]
(ฟูจิ) นุ่มมาก แล้วก็ความเป็นช็อกโกแลตที่มันเข้มข้น ละลายในปาก โอ้โฮ อร่อยมากครับ
ไม่รู้จะพูดอย่างไร อร่อยจริง ๆ เลิกไม่ได้ เลิกไม่ได้เลย ธรรมดาแล้ว ความกลมกล่อมของมัน
จะผสมกันให้มันอร่อย มันไม่ได้ง่ายนะ นี่ไปถ่ายที่ญี่ปุ่นมาทั่ว หลายที่แล้ว มาเจอความอร่อยแบบนี้นะครับ
น็อกเอาต์เลย เหมือนโดนน็อกเอาต์เลย จริง ๆ ผมคิดในใจว่า
มีใครมาทำแฟรนไชส์ไหม หรือจะไปทำแฟรนไชส์ที่ญี่ปุ่นได้ไหม ไม่ได้เลยเพราะอะไร ความสด ความอร่อย ต้องมากินที่นี่ที่เดียว แล้ววันต่อวันด้วย และคุณผู้ชม
ถ้าคุณจะมาคุณอย่าลืมนะ จองทางอินเทอร์เน็ตมาด้วยนะ ไม่อย่างนั้นมันจะหมด แล้วอนาคตท่านมีแผนการอย่างไรต่อ (ภาษาจีน) (บรรยาย) จริงค่ะ
ถ้าอยากกินของสดจริง ๆ ก็ต้องมากินที่ไต้หวันเท่านั้น และสูตรของที่นี่ก็ไม่เหมือนที่ไหน ท่านคิดแล้วก็ทำเอง รวมทั้งตระเวนไปพิสูจน์ตามร้านต่าง ๆ ในญี่ปุ่นก็ไปมาแล้วค่ะ
คือ อ่านสูตรว่าร้านนี้ทำอะไรอย่างไร แล้วก็ตามไปชิมเลย แล้วก็มาดัดแปลงของตัวเอง
แต่ความคิดของท่านอย่างหนึ่ง
ที่น่าสนใจก็คือ ท่านคิดว่าไม่มีของหวานอะไร ที่อร่อยสมบูรณ์แบบ
แต่ว่าจะต้องเหมาะกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแน่ ๆ นั่นคือเป้าหมายของท่านค่ะ
(ฟูจิ) ใส่ใจในการวิจัยจริง ๆ ค้นคว้ากันจริง ๆ เลย คนไต้หวันค่อนข้างจะชอบรสชาติ
ที่แตกต่างกันบางอย่างนิดหน่อย มีความละเอียดต่างกันหน่อยหนึ่ง
[เสียงดนตรี]
[เสียงดนตรี]
(บรรยาย) ใช่เลยค่ะ
ถ้าไม่ใส่ใจมาก คงไม่สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มาจนถึงวันนี้ และอนาคตท่านก็อยากคิด จะเปิดร้านอาหารเพิ่มเติม เพื่อกลุ่มลูกค้าอื่น ๆ ที่ไม่มีเวลามาต่อคิวซื้อขนมค่ะ
การทำธุรกิจการงานทุกอย่าง ก็จะต้องมีการพัฒนา และก็ต้องเป็นการพัฒนาอย่างมีแนวทาง
ที่ชัดเจนนะคะ จบจากร้านนี้ เราคงไม่มีเวลาไปต่อคิว
ร้านอาหารที่ไหนอีกแล้ว อิ่มมากจริง ๆ ค่ะ
ตอนหน้าเราจะกลับไปที่ญี่ปุ่น ฐานที่มั่นของเรากันต่อไปค่ะ
(ฟูจิ) ร้านสะดวกซื้อในประเทศญี่ปุ่นนะครับ
ไปที่ไหนก็มี เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเลยนะ นี่แค่ตู้โชว์อันเดียวนะพี่ดูสิ นี่หน้าหนาว ตัวทำความร้อน นี่อะไร กระป๋องยังมีขายด้วย (บรรยาย) พบกับดูให้รู้ได้ใหม่ในครั้งหน้า กับเรื่องราวในญี่ปุ่นที่คุณไม่เคยเห็น ดูให้รู้ รู้ให้ลึก สวัสดีค่ะ