โมจิหยดน้ำ ขนมหายากที่ต้องเข้าคิวซื้อ

1975 0

(บรรยายหญิง) มาพิสูจน์ขนมชนิดหนึ่ง ที่ไม่ได้หากินกันได้ง่าย ๆ แม้
แต่ในญี่ปุ่น (เสียงอุทาน) (ฟูจิ) บอกได้อย่างเดียวเท่านั้นนะ มาจาก… ทะเล เพราะเกิดมาไม่เคยกิน (บรรยาย) ลูกค้าต้องมารับบัตรคิวกันตั้งแต่เช้าตรู่ มีขายแค่เสาร์ อาทิตย์ แถมกินดีมีประโยชน์อีกด้วย ตามฟูจิเซ็นเซไปละเมียดละไมด้วยกันค่ะ
ร้านนี้เปิดมาแล้วนะครับ
117 ปี โอ้โฮ สุนทรีเลย อร่อยมาก (ภาษาญี่ปุ่น)

[เสียงดนตรี]

(บรรยาย) วันนี้ฟูจิเซ็นเซจะพาไปรู้จัก กับขนมเก่าแก่อย่างหนึ่งในญี่ปุ่นค่ะ
ซึ่งแม้
แต่ในญี่ปุ่นเอง ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ชิมกันได้ง่าย ๆ นะคะ เนื่องด้วยวิธีการทำที่ไม่ธรรมดา ไม่ใช่ของที่จะมาขายกันตลอดเวลาได้
แต่เราจะพาไปชิมให้ได้แน่นอนค่ะ
และก็เดินมาในย่านโอโมเตะซันโด เดินเข้ามาลึกเลย เพื่อจะมากินโมจิหยดน้ำ โมจิมีตั้งหลายอย่าง แล้วทำไมต้องมาในซอยนี้ ร้านนี้เลย ๆ เงียบมาก อยู่ในบ้านคน เวลาเข้าต้องเงียบ ๆ ไม่กล้าพูดดังเลย เขากินกันแบบเงียบ ๆ เข้ามาดูกัน

[เสียงดนตรี]

(บรรยาย) เป็นร้านที่พิเศษจริง ๆ ค่ะ
1. เพราะต้องจองล่วงหน้า 2. คือในหนึ่งวันรับจองแค่ 10 ที่นั่งเท่านั้น เราจะเป็นหนึ่งใน 10 ในวันนี้อย่างแน่นอนค่ะ
(ฟูจิ) เวลาจะถ่าย อย่าถ่ายลูกค้า ต้องขอทีละคนด้วยนะ เขาบอกอย่างนี้เลย

[เสียงดนตรี]

(บรรยาย) มาถึงไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมายนะคะ ชิมเลยค่ะ
ซึ่งที่นี่ไม่ได้ขายแค่โมจิหยดน้ำ
ดังนั้น เราจะลองขนมอย่างอื่นด้วยค่ะ
ต้องเช็ก 3 นาที หมุนไปหมุนมานะครับ
(บรรยาย) แล้วเราจะได้เห็นกันชัด ๆ ว่า โมจิหยดน้ำ
ที่จะมีลูกค้ากินได้วันละ 10 ที่นั่งเท่านั้น มันจะพิเศษขนาดไหน

[เสียงดนตรี]

(ภาษาญี่ปุ่น) ก็คืออันนี้ก็นะครับ
บอกเป็นภาษาญี่ปุ่น คือ น้ำตาเทวดา และก็อันนี้ ก็คือ คินาโกะ ซึ่งมาจากฮอกไกโด และอันนี้ก็เป็นซอส เขาบอกว่า
ไม่มีการผสมสารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ
ก็ทำให้อร่อยครับ
(บรรยาย) เราเรียกแบบพื้น ๆ ว่า โมจิหยดน้ำ
แต่เจ้าของร้านเรียกว่า น้ำตาเทวดา อื้อฮือ หยาดน้ำตาเทวดา หยดใหญ่โตมากเลยนะคะ แถมยังใสแจ๋วน่ากินอีกต่างหาก
ค่ะ
(ภาษาญี่ปุ่น) ธรรมดาแล้ว อยากจะใช้ชามของญี่ปุ่นนะครับ
นี่ตั้งใจใช้ชามของยุโรป เพราะอะไร เพราะชามนี้เป็นชามพิเศษนะครับ
อยู่ในราคา 7,000 เยน นั่นก็คือ 2,000 บาท
ถ้าทำตก นี่เรื่องใหญ่นะ แล้วเพราะอะไรถึงใช้ชามนี้เพราะว่า จะทำให้น้ำตาของเทวดา ดูแล้วมีความงดงาม มีความสวยมากขึ้น
ก็เลยเป็นอย่างนี้นี่เองครับ
ก็มีสตอรีนะครับ

เรื่องราวก็คือว่า ชามนี้นะครับ
เป็นชามที่ธรรมดาดูแล้วอาจจะกินยาก ให้ภาพลักษณ์ว่าเหมือนเป็นปีกของเทวดาก็ได้ หรือจะเป็นเมฆก็ได้ครับ
กำลังอยู่บนท้องฟ้าอะไรก็ได้ครับ
เวลากินอาจจะกินยากหน่อยนะ
แต่ว่าตั้งใจเลือกให้เป็นอย่างนี้ ให้ดูรู้สึกว่ากินแล้ว
มันอร่อยตา อร่อยใจประมาณนั้นครับ
(บรรยาย) ฟังคำอธิบายมาหลายนาที ตอนนี้ดังโงะที่เราสามารถปิ้งเองได้สด ๆ ก็พร้อมให้ได้ชิมกันแล้วค่ะ
ลองเลยค่ะ
ฟูจิเซ็นเซ น่ากินสุด ๆ ไปเลยนะคะ (ฟูจิ) นี่ครับ
พอย่างขึ้นมาแล้ว ดูนะครับ
โมจิมันจะบวมขึ้น พองขึ้น มันดูขาวขึ้นแล้วก็ใสขึ้น จิ้มจากอะไรก่อนดี (ภาษาญี่ปุ่น) (ฟูจิ) จิ้มจากยูซุโคโชก่อนเลยนะครับ
เขาบอกว่าจิ้มเยอะ ๆ เลย ไม่มีการใส่ยากันบูดอะไรทั้งสิ้นนะครับ
ทำในร้านทุกวันเลย อย่างนั้นก็ขอกินเลยนะ

[เสียงดนตรี]

(ฟูจิ) 1 2 3 ดูสีสวยงาม

[เสียงดนตรี]

(ฟูจิ) ยังไม่กัดยังหอมเลยนะ (ภาษาญี่ปุ่น) อร่อยมาก โอ้โฮ อร่อยมาก น่าจะเลือกโมจิพิเศษอะไรสักอย่าง มันถึงมีความนุ่ม หอม แล้วก็หวานมาก คืออร่อยตามภาพเลย ธรรมดาแล้วนะดูสวย
แต่ว่าไม่อร่อย เคยได้ยินไหม เขาบอกว่าไม่สวย
แต่อร่อย
แต่อันนี้สวยด้วยอร่อยด้วย อย่างนั้นขอจิ้มบ๊วยเลยนะ ลองเลยครับ
หอมอีกแล้ว 1 2 3

[เสียงดนตรี]

สุดยอด (บรรยาย) อิจฉาฟูจิเซ็นเซทุกครั้ง ที่มีการชิมอาหารเกิดขึ้นนะคะ และนอกจากดังโงะสูตรของทางร้านแล้ว ก็ยังมีเครื่องดื่ม ที่คิดมาแล้วว่า กินกับขนมได้เข้ากันสุด ๆ ค่ะ
(ภาษาญี่ปุ่น) (ฟูจิ) อันนี้เป็นเซตกับอันนี้นะ (ภาษาญี่ปุ่น) (ฟูจิ) แล้วเขาบอกว่า
อันนี้เป็นน้ำเลมอนเนดนะครับ
เลมอนเนด ก็คือเป็นน้ำเลมอน เป็นน้ำมะนาว ซึ่งเป็นมะนาวของญี่ปุ่น และก็มีเปลือกลอยอยู่นิดหน่อย กินได้ทั้งหมดเลย เธอคิดผสมผสานระหว่าง
ขนมญี่ปุ่นกับน้ำมะนาวญี่ปุ่นนะครับ
มันจะกลมกล่อมขนาดไหนต้องลอง นี่ดูสี ดูเปลือกนะครับ
เขาบอกว่ามีเปลือกลอยอยู่ไม่สำคัญ กินได้เลย นี่แค่ดมกลิ่นดูก่อนนะ อื้อฮือ กลิ่นหอมเลย ใครชอบน้ำมะนาว ลองจินตนาการดูนะ มันจะประมาณนั้นหรือเปล่านะครับ
ลองดูครับ

[เสียงดนตรี]

(เสียงอุทาน) (ฟูจิ) คือมีความสุขมาก กินแล้วแบบว่าคลายเครียด ผ่อนคลายเลย (บรรยาย) เปรี้ยว ๆ ตัดหวาน
ก็น่าจะเข้ากันได้ดีนะคะ ตอนนี้เรามาถึงนางเอกของเรา โมจิหยดน้ำ เราอยากรู้มากว่าทำอย่างไร
แต่เธอจะบอกเราไหมนะ (ฟูจิ) ที่มาที่ไปของน้ำตาเทวดาเป็นอย่างไร เจ้าของร้านบอกว่านะครับ
ผู้หญิงทุกคนชอบกินของหวาน หลังอาหารจะชอบกิน

แต่…

ถ้ากินของหนัก ๆ เกินไป จะทำให้กินข้าวเย็นไม่ได้ กินต่อไม่ได้แล้วทำให้อ้วน เธอก็บอกว่าอยากกินอะไรที่อร่อยด้วย แล้วก็มีแคลอรีต่ำ กินแล้วสุขภาพดีนะครับ
ทำให้ร้านโด่งดัง มีคนมากินกันเยอะเลยครับ
ขั้นตอนนี้ทำอย่างไร บอกไม่ได้
แต่ผมจะพยายามนะ บอกไว้ก่อนนะ พยายามถามว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ถามนิด ๆ หน่อย ๆ ก็แล้วกัน (ภาษาญี่ปุ่น) (ฟูจิ) บอกได้อย่างเดียวเท่านั้นนะ มาจากจุด… ทะเล น่าจะเป็นสาหร่ายทะเล หรืออาจจะเป็นอะไรสักอย่าง
ที่เราเคยกินนั่นแหละ ไม่มีเจลาตินอยู่ข้างในทั้งสิ้นนะครับ
ใช้อาหารทะเลและน้ำ ถึงตั้งชื่อว่าน้ำตา น้ำกับส่วนหนึ่งของทะเล บอกได้แค่นี้ครับ
สวยงามมาก บอกไม่ได้ครับ
(บรรยาย) ส่วนประกอบอื่น ๆ
ของการกินโมจิหยดน้ำ ก็คือผงถั่วเหลืองและก็คาราเมลค่ะ
(ฟูจิ) วิธีการกินก็คือ กินจากอันนี้ก่อน แล้วก็เอาอันนี้มาผสม อันนี้คืออะไร น้ำตาเทวดาตัดออกมาผสมกับคินาโกะ และผสมกับน้ำตาลคุโรมิสึ ผสมกันแล้วมันกลมกล่อม กินดูครับ
เธอบอกว่าให้จิ้มเข้าไปข้างใต้อย่างนี้ โอ้โฮ วิธีการคือเอาช้อนเข้าไปอย่างนี้เลย นี่ ๆ เห็นไหมครับ
เอาช้อนเข้าไปข้างใน ดูสิ มันเป็นแว่นขยายเลยนะ จิ้มเข้าไปข้างในเห็นไหมครับ
ไม่มีความขุ่นเลย เธอบอกให้เอาช้อนเสียบเข้าไปทางข้าง ๆ หยิบขึ้นแล้วนะ หยิบขึ้นมาเป็นอย่างนี้เลย ดู น้ำตาเทวดา เกิดมาไม่เคยเห็นนะ แล้วก็เอาคินาโกะนี้มาผสม แล้วก็เอาคาราเมลมาผสม (ภาษาญี่ปุ่น) เรียบร้อยแล้ว รู้สึกผิดจังเลยต้องกินแล้วนะ นี่เป็นอย่างนี้ น้ำตาเทวดา เพื่อน ๆ ทุกคน
ลองจินตนาการตามมานะว่าเป็นอย่างไร รสชาติจะเป็นอย่างไร 1 2 3

[เสียงดนตรี]

อื้อฮือ (ฟูจิ) มันนุ่มมาก
แต่ว่านุ่มแบบรู้สึก แล้วก็แป๊บเดียวละลายเลย อธิบายไม่ถูก เพราะเกิดมาไม่เคยกิน เพื่อน ๆ อยากให้ผมบอกใช่ไหม
ว่ามันเหมือนอะไร อยากจะให้ผมบอกว่ามันคล้าย ๆ อะไร อธิบายไม่ถูกจริง ๆ (ภาษาญี่ปุ่น) เธออธิบายแทนเราให้แล้ว ผมเข้าใจแล้ว คืออะไร ไม่ใช่ว่ารสชาติอย่างเดียวนะ การที่มันเข้าไปในปาก แล้วมันละลายในปาก แล้วมันรู้สึกกลมกล่อมทีหลังเวลากลืน เพราะอะไร อุณหภูมิข้างในของคน
มันสามารถละลายตัวนี้ได้ แล้วมันละลาย พอละลายเสร็จ จะได้กลิ่นของคินาโกะ
และกลิ่นของน้ำตาลคุโรมิสึ แล้วมันละลายเข้าไป
เข้าไปในคอ ๆ อย่างนั้นเลย

[เสียงดนตรี]

(บรรยาย) เครื่องดื่มที่จะคู่กับโมจิหยดน้ำ ก็จะต้องเป็นชาค่ะ
คัดมาแล้วว่าจะมาช่วยตัดความหวาน ทำให้กินแล้วไม่เลี่ยนค่ะ
ละเมียดละไม ได้คุณค่าทางอาหารอย่างดีด้วยเลยนะคะ
แต่โมจิหยดน้ำที่นี่ก็ไม่ใช่ที่เดียวในญี่ปุ่นนะคะ เราจะเดินทางไปที่โคฟุ เพื่อไปชิมโมจิหยดน้ำที่เขาบอกว่า เป็นแบบต้นตำรับดั้งเดิมเลย จะเหมือนกันหรือไม่ ตามไปค่ะ

[เสียงดนตรี]

(ภาษาญี่ปุ่น) บอกว่านะครับ

รู้ไหมครับ
ว่าวันนี้เป็นวันจันทร์ แล้วจะมากิน มิซุ ชินเง็น โมจิ อันนี้นะครับ
วันธรรมดาไม่มีขาย มีขายเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์เท่านั้น (บรรยาย) อ้าว อย่างไรกันคะฟูจิเซ็นเซ โมจิหยดน้ำที่นี่ จะขายเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์
แต่เรามาถ่ายทำกันวันจันทร์ แล้วเราจะได้ท้าพิสูจน์
โมจิหยดน้ำต้นตำรับไหมล่ะคะ มาถามบอกว่าไม่มี ๆ โอกาสได้กินแน่นอน และ
ถ้าจะมาวันเสาร์ อาทิตย์ โน้นคิวไปถึงนู้นเลยนะ (บรรยาย) ได้ไม่ได้ไม่รู้ รู้
แต่ว่า… ท่านเจ้าของร้านเชิญเข้าไปถึงครัวเลยค่ะ

[เสียงดนตรี]

(ภาษาญี่ปุ่น) คือตอนนี้ท่านบอกว่าการที่จะทำขนมชิ้นนี้ มันจะใช้เวลา แล้วก็ใช้สถานที่เยอะ
ดังนั้น จะต้องทำเฉพาะ
เดือนหกถึงเดือนเก้าเท่านั้น และก็ให้กินเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์เท่านั้นนะครับ

แต่วันนี้จะโชว์และแนะนำให้เราได้รู้วิธีการทำเลย ขนมที่บอกว่าอร่อยและก็ขายดี วันนี้ท่านบอกว่าจะเปิดเผยให้เลย แล้วนี่เป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ แล้วสวยงามด้วย
แต่มันยากตรงไหนรู้ไหม เวลาผสมแล้วทำให้มันออกมาได้ บอกว่ามีแค่น้ำตาล น้ำ แล้วก็คันเต็น (บรรยาย) ในที่สุดเราก็จะได้รู้แล้วว่า โมจิใสแหนว
ที่เราได้เห็นฟูจิเซ็นเซชิมไปแล้วนั้น ตกลงทำมาจากอะไรกันแน่ แล้วทำไมถึงขายได้วันละไม่กี่ชิ้น
แต่ตอนนี้ท่านประธาน
จะเล่าให้เราฟังกันก่อนนะคะว่า ที่ร้านขนมแห่งนี้มีทีเด็ดอะไรอยู่บ้าง ที่แน่ ๆ ร้านนี้เก่าแก่มากจริง ๆ ค่ะ
คือเปิดมาแล้ว 117 ปี
ดังนั้น ขนมที่นี่ต้องไม่ธรรมดาแน่ค่ะ
ร้านนี้เปิดมาแล้ว 117 ปี โอ้โฮ 117 ปี แล้วท่านเป็นรุ่นที่ 4 มีขนมอยู่ประมาณร้อยสิบกว่าชนิดนะครับ
ที่ผมแปลกใจก็คือ การที่เปลี่ยนรุ่นแล้ว
ทำให้ขนมขายได้คงทนมาถึงตรงนี้ มันต้องมีการตลาด หรือการสร้างแบรนด์อะไร ผมอยากรู้มากเลย นี่เป็นเรื่องที่ยากนะครับ
มันไม่ใช่ว่าอยู่นานแล้วจะดีนะ เพราะหลายเจ้าจะอยู่ไม่เกิน 20 ปี ก็เจ๊งไปแล้ว
ถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลย (บรรยาย) ท่านบอกว่า… เคล็ดลับของการทำให้ร้านขายดิบขายดี
มากว่า 117 ปีก็คือ มีการทำขนมพื้นเมือง
ผสมผสานกับขนมพิเศษอื่น ๆ บ้าง เพื่อให้ลูกค้าไม่เบื่อ
แต่ทุกอย่างต้องทำจากวัตถุดิบชั้นดี
และอร่อยจริงค่ะ
ที่นี่จะมีขนมชนิดหนึ่งที่ชื่อดังอยู่แล้ว ก็คือนามะ ชินเง็น โมจิ ชินเง็น ก็คือชื่อของคนนะครับ
ในอำเภอนี้ ในเมืองนี้นะครับ
คุณชินเง็น ก็คือคนที่ชื่อดังนะครับ
เขาก็เลยใช้ชื่อนี้มา สมัยก่อนนะครับ
แล้วก็มาตั้งชื่อบวกเป็นน้ำนะครับ
ก็คือน้ำที่นี่เป็นน้ำที่สะอาด ก็เลยตั้งชื่อเป็น มิซุ ชินเง็น โมจิ แล้วภาพลักษณ์แบบไหน เหมือนน้ำค้างที่ตกอยู่บนใบไม้ แล้วมันเป็นน้ำอยู่บนใบไม้ มันกลิ้งอยู่บนใบไม้ มันมีความขาวใสมาก ๆ นะครับ
ก็เลยตั้งชื่อว่า
มิซุ ชินเง็น โมจิ เพราะอะไรครับ
เพราะคนที่ละแวกนี้ได้กิน แล้วก็ให้ตั้งชื่อดู เขาบอกว่าชื่อนี้น่าจะเป็นชื่อที่เหมาะสมที่สุด ก็ตั้งมาแล้วประมาณ 7 ปีก่อนครับ
(บรรยาย) ตอนนี้ต้องลองจำชื่อ
ที่เป็นภาษาญี่ปุ่นกันบ้างนะคะ โมจิหยดน้ำ มีชื่อว่า… ฟังเสียงฟูจิเซ็นเซดี ๆ ค่ะ
ที่นี่เป็นน้ำที่สะอาดก็เลยตั้งชื่อว่า มิซุ ชินเง็น โมจิ แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร ท่านบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน
เพราะที่นี่เป็นต้น
ตำรับ พอทำปุ๊บให้กินเลย
มันจะมีความอร่อยมากเลยครับ
(บรรยาย) ยังไม่หมดค่ะ
โมจิหยดน้ำ มีชื่อภาษาอังกฤษด้วย ซึ่งมีชาวต่างชาติชื่นชอบกันมาก ด้วยรูปลักษณ์ที่ดึงดูดความสนใจ ก็เลยได้ชื่อว่า Raindrop Cake ต้องบอกว่าเราโชคดีมาก ที่ได้มาพิสูจน์ถึงแหล่งกำเนิดค่ะ
และเพราะความเป็นต้น
ตำรับ แถมขายเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ ต้องใช้กำลังคนเพิ่มในการทำและดูแลหน้าร้าน ที่จะมีคนมาต่อแถวรอกินให้ได้
ดังนั้น ทุกเสาร์ อาทิตย์ ก็จะต้องจ้างคนทำงานเพิ่ม
อีก 15 คนเลยทีเดียวค่ะ
(ภาษาญี่ปุ่น) ขายได้วันละ 1,100 ชิ้น นะครับ
วันเสาร์ 1,100 ชิ้น
วันอาทิตย์ 1,100 ชิ้น ก็คือ 2,200 ชิ้น มีเหตุผลหนึ่งที่จะไม่ทำวันธรรมดา เพราะว่า
ถ้าทำมันแล้ว วันธรรมดาจะทำขนมอื่นไม่ได้
จะขายไม่ได้ ก็คือจะขาดทุน
ดังนั้น เพราะเหตุใดถึงทำอยู่ ก็เพราะว่ามันสร้างชื่อเสียงให้กับร้าน แล้วมันออกใน SNS
(Social Network Service) นะครับ
แล้วก็อยู่ใน Google Topic มาก่อนด้วย สมัยก่อนนี้ชื่อดังมาก ก็ทำให้ร้านนี้โด่งดัง (บรรยาย) เข้าใจแล้วค่ะ
ว่าทำไมถึงไม่ให้เรามาถ่ายทำวันเสาร์ อาทิตย์ เพราะที่ร้านคงจะยุ่งมาก ๆ เพื่อที่จะผลิตขนมปกติที่ขายทุกวัน แล้วยังต้องทำโมจิหยดน้ำเพิ่มอีกเป็นพันชิ้น
ดังนั้น มาถ่ายวันธรรมดา แล้วทำโมจิหยดน้ำให้เราดูเป็นพิเศษ น่าจะสะดวกและก็ชัดเจนกว่า เรามาดูกันชัด ๆ ว่าเขามีวิธีทำอย่างไรค่ะ
(ฟูจิ) และที่สำคัญนะ น้ำนี้เป็นน้ำที่มาจากเขาตรงนี้นะครับ
มันถึงเป็นน้ำมิเนอรัล ก็คือน้ำที่มีแร่ธาตุเยอะเลยนะครับ
ถึงทำให้เป็นขนมนี้ได้ครับ
(บรรยาย) ขออธิบายเพิ่มเติมอีกนิด เกี่ยวกับ Kanten (คันเต็น) นะคะ คันเต็นจะคล้าย ๆ ผงวุ้น ที่ทำให้เกิดการแข็งตัวของของเหลว
แต่แตกต่างตรงที่ทำมาจากสาหร่ายทะเล และที่สำคัญ มีคุณค่าทางอาหารสูง มีใยอาหารสูง
แต่แคลอรีต่ำมาก เขาว่ากันว่าค้นพบเมื่อ 350 ปีที่แล้วในประเทศญี่ปุ่น
ดังนั้น การนำเอาคันเต็นมาทำเป็นโมจิหยดน้ำ ก็เลยเท่ากับเราได้กินขนมที่มีประโยชน์ค่ะ
เอาละค่ะ

ตอนนี้ได้เวลาสาธิตการทำโมจิหยดน้ำชัด ๆ ให้เราดูแล้วค่ะ
(ภาษาญี่ปุ่น) อันนี้ก็คือคันเต็นนะครับ
ใส่เข้าไป

[เสียงดนตรี]

(ฟูจิ) ปล่อยให้มันค่อย ๆ ระเหยไปเรื่อย ๆ ใช้เวลา 20-30 นาที ผมนึกว่าเป็นไฟแรงหรือไฟเบานะครับ
ท่านบอกว่าใช้ไฟแรงนะครับ
ดูไฟสิครับ
ตรงนี้ นี่ใส่น้ำตาลเข้าไปแล้วครับ
คนต่อไป ใช้เวลา 30 นาที ตอนนี้ 20 นาทีแล้วครับ
แล้วรู้ไหมครับ
ว่า

ถ้าไม่ใส่น้ำตาลจะทำให้ไม่ใส น้ำตาลทำให้ใส เพิ่งรู้นะนี่ (บรรยาย) ตอนนี้กระบวนการต้มผ่านไปแล้ว ต่อไปก็จะนำไปหยดลงบนถ้วยค่ะ
(ฟูจิ) นี่ครับ
ท่านก็บอกนะครับ
ว่า เคล็ดลับความนิยมของขนมนี้นะครับ
เพราะอะไรท่านบอกว่า
หนึ่งนะครับ
อยู่ที่ไอเดียของเรา
ถ้ามีไอเดียแล้วยังไม่เคยมีมาก่อนนะครับ
สร้างความสวยงามเพิ่มอีกหน่อยหนึ่ง และออก SNS
(Social Network Service) ปุ๊บในยุคนี้ ให้มันเหมาะสมกับยุค เมื่อเหมาะสมกับยุคแล้ว คนก็ถ่ายลงในอินเทอร์เน็ตปุ๊บ กระจายไป วันหนึ่งมีคนดูเป็นแสนคน ทำให้รู้จักร้านนี้ แล้วมากินกันครับ
อันนี้ก็คือในหนึ่งครั้งจะได้ 200 อัน
ดังนั้น วันหนึ่งจะต้องทำ 5 ครั้ง
เพราะฉะนั้นใน
แต่ละวัน

ถ้าทำจริง ๆ จะทำงานอื่นไม่ได้เลย ก็คือการทำอันนี้จะเหนื่อยหน่อย

แต่ก็เป็นประโยชน์ (บรรยาย) วิธีการหยดลงบนถ้วย ก็ต้องใช้คนที่ชำนาญค่ะ
ถึงจะได้รูปทรงสวยงาม เหมือนหยดน้ำที่สมส่วนค่ะ
(ฟูจิ) ระหว่างที่เติมอยู่นะ ห้ามชนโต๊ะเด็ดขาด
ถ้าสะดุดชนโต๊ะปุ๊บ ข้างในนะครับ
โมเลกุลข้างใน
มันจะขยับแล้วจะไม่แข็งตัว สำคัญในกระบวนการนี้มาก ๆ ครับ
แล้วเดี๋ยวอีกซักพักหนึ่ง
ปล่อยให้ความร้อนออกไป แล้วเอาเข้าไปในตู้เย็น
ค่อย ๆ เอาเข้านะครับ
ตรงนี้ห้ามชนนะครับ

เพราะฉะนั้นความหนาแน่นของน้ำตาล ความหนาแน่นที่ผสมกันอยู่ในนี้ ผสมกันอย่างนี้ มันถูกแยกออกไป

[เสียงดนตรี]

(บรรยาย) ตอนนี้ก็รอเวลาให้โมจิหยดน้ำเซตตัว
พร้อมให้เราชิมนะคะ

[เสียงดนตรี]

ระหว่างรอเราไปชมหน้าร้านกันหน่อยดีกว่าค่ะ
(ฟูจิ) ในร้านนี้ก็มีขนมเยอะแยะมากมาย เป็นร้อยชนิดเลยนะครับ

แต่ว่าเราเลือกไม่ถูก
เพราะฉะนั้นจะให้ท่านแนะนำว่า มีอะไรที่ขายดี Top 5 มีอะไรบ้างครับ
(ภาษาญี่ปุ่น) อันที่ 1 คือ นามะ ชินเง็น โมจิ เป็นรูปร่างแบบนี้ครับ
อย่างนี้เลย ใช้ตะเกียบคีบแล้วมันนุ่ม ๆ อย่างนี้เลยนะ ขอกินดู 1 2 3

[เสียงดนตรี]

บอกว่านะครับ
มีได้แค่ 3
วันเท่านั้นหมายถึงอะไร การที่มีน้ำตาลน้อยแสดงว่าเก็บไว้ได้ไม่นาน อันที่ 2 คูรูมิ ชินเง็น โมจิ

[เสียงดนตรี]

ทำไมมันอร่อยอย่างนี้ คล้าย ๆ กับขนมเข่ง
แต่ว่าผสมกับความหวานความกลมกล่อม ใส่ถั่วเหลืองอีก อร่อยเลย นี่ก็อร่อยมาก อันนี้เก็บไว้ได้ 10 วัน อันที่ 3 สแตนดาร์ด ชินเง็น โมจิ ซึ่งเป็นรูปของทาเคดะ ชินเง็น เป็นนักรบสมัยก่อน ที่อยู่ในเมืองนี้นะครับ
ให้ภาพลักษณ์ว่าเวลาออกไปรบ ก็จะเอาโมจินี้ไปกินด้วย เป็นเสบียงในการไปสู้รบนะครับ
(ภาษาญี่ปุ่น) และอันนี้ อันที่ 3 หรืออันที่ 4 อันนี้อันที่ 4 เป็นคัสเตลลานะครับ
ซึ่งร่วมทำกับตรงนู้น
เป็นโรงกลั่นเหล้า กลั่นแอลกอฮอล์ เอากากเหล้าที่จะทิ้ง เอามาทำเป็นขนม สร้างความผูกพันระหว่างเพื่อนบ้านอีกนะครับ
แล้วก็อร่อยด้วย อันนี้เป็นอันที่ 4 อันที่ 5 Top 5
ที่บอกว่าน่าสนใจอีกอันหนึ่งนะครับ
สร้างความตื่นเต้น สร้างความแปลกตา แปลกใจ ดูสิครับ
ว่า นี่คือมันจู เป็นซาลาเปา เอาถ่าน ๆ ไม้มาผสมด้วย
แล้วก็ข้างในเป็นมันเทศ และแปะด้วยทอง แล้วเอาไปกินกันครับ
ก็คือมีทั้งอร่อยอย่างเดียวไม่พอ แปลกตา แปลกใจแล้วก็น่าสนใจด้วย แล้วก็บอกว่า
แต่ละอัน ๆ นะ ดูสิครับ
จะทำจากมือเลยนะ อธิบายให้เห็นเป็นภาพ นี่แหละวิธีการทำให้ขายดีครับ
(บรรยาย) ขนมที่นี่หลากหลาย และก็น่าสนใจจริง ๆ นะคะ ไม่แปลกใจว่าร้านนี้ถึงอยู่มาได้เกินร้อยปี และก็ยังคงเป็นที่นิยมอยู่ค่ะ

[เสียงดนตรี]

ตอนนี้โมจิหยดน้ำ รอเราอยู่แล้ว ไปชิมกันสด ๆ เลยค่ะ
(ฟูจิ) แน่นอนครับ
ถึงเวลาสำคัญ
ของการที่จะชิมรสชาติแล้ว วิธีการกินเป็นอย่างไรครับ
เขาบอกว่ามีวิธีการกินสองขั้นตอนนะครับ

ก่อนอื่นต้องกินข้างบนก่อน
โดยไม่ต้องผสมอะไรเลย

[เสียงดนตรี]

(ภาษาญี่ปุ่น) (ฟูจิ) คือแบบอย่างนี้เลยหรือ โอ้โฮ อย่างนี้เลยครับ
ยกขึ้นมา ดูรสชาติก่อน ใส สวยงามมากครับ
กินเลยนะ

[เสียงดนตรี]

มันลื่นเข้าปาก
มันเย็นสดชื่น ๆ อย่างนั้นครับ
เหมือนกับกินน้ำแข็ง
แต่ไม่ใช่นะครับ
มันมีความนุ่มละลายเข้าปาก ขั้นตอนที่สอง การใส่คินาโกะ
ก็คือผงถั่วเหลืองอย่างนี้ แล้วก็เอาน้ำตาลดำ เทเข้าไปผสมกัน ทั้งหมดนี้นะครับ
ท่านทำเองหมดเลยนะครับ
ตัดจึ้ง ๆ ผสมกัน

[เสียงดนตรี]

อร่อยมาก สุนทรีเลย ทุกทีอร่อยแบบมีความสุนทรี ไม่ได้อร่อยแบบ โอ้ อย่างนี้นะครับ
แบบนุ่มเหมือนความเป็นกุลสตรีประมาณนั้นครับ
คุณผู้ชมเข้าใจคำว่า กินน้ำ ไหม ไม่ใช่ดื่มนะ
กินน้ำ น้ำเคี้ยวได้อย่างนี้ ๆ เลยครับ
มีความสุนทรีและมันสดชื่นมาก (บรรยาย) เป็นขนมที่ละเมียดละไมจริง ๆ ด้วยความใส
และน้ำที่ได้จากแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้นไปอีก ในเวลากินนะคะ (ภาษาญี่ปุ่น) คืออย่างนี้
ผมถามท่านว่าเคยซื้อแบบ 3 อันไหม อันที่ 1 กินทีละนิด อันที่ 2 คือกินเข้าไปเลย 3 อันทีเดียวเลยได้ไหม ท่านบอกว่าไม่ได้ คนหนึ่ง 1 ชิ้นเท่านั้น โอ้โฮ เราโชคดีมาก วันเสาร์ อาทิตย์เท่านั้นและไม่พอ เริ่มแจกใบจองคิว ตั้งแต่หกโมงเช้า ครึ่งวันเช้าเกลี้ยงครับ

[เสียงดนตรี]

(บรรยาย) พิเศษสุด ๆ กันไปเลยนะคะ และเพราะว่าทำเสร็จแล้ว ควรจะต้องรีบกินเลย เก็บไว้ไม่ได้
ดังนั้น ก็ไม่แปลกใจ ที่ใคร ๆ ก็อยากจะมาต่อคิวกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อให้ได้ชิมโมจิหยดน้ำแบบต้นตำรับสักครั้งค่ะ
วันนี้ต้องขอขอบคุณท่านประธานมาก ที่เปิดเผยกระบวนการหลัก ๆ ในการทำโมจิหยดน้ำให้เราได้เห็นกัน กระจ่างชัดใสขึ้นมาเลยค่ะ

[เสียงดนตรี]

นี่แหละค่ะ
คือหนึ่งในเคล็ดลับ ที่ทำให้กิจการร้านขนมอายุเกินร้อยปี ยังคงขายดีอยู่ได้ คือมีขนมต้นตำรับ และก็มีขนมใหม่ ๆ มาให้ลูกค้าตื่นเต้นเสมอ

[เสียงดนตรี]

(ฟูจิ) ตรงนี้เราไม่เคยเดินกัน วันนี้ได้เห็นกันว่า อาณาจักรใต้ดินก็มีความสุขเหมือนกัน เขาบอกนะครับ
ว่าตึกนี้สมัยก่อนไม่มี ที่แสดงละครชื่อ โคมาเกกิ บางร้านใครก็เข้าได้
แต่บางร้านห้ามเข้า สมัยก่อนมีของขายเยอะเลย (บรรยาย) พบกับดูให้รู้ได้ใหม่ในครั้งหน้า กับเรื่องราวในญี่ปุ่นที่คุณไม่เคยเห็น ดูให้รู้ รู้ให้ลึก สวัสดีค่ะ

Related Post

Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *